December 6, 2024

Warning: sprintf(): Too few arguments in /www/wwwroot/newsdemomb13.com/wp-content/themes/chromenews/lib/breadcrumb-trail/inc/breadcrumbs.php on line 253

ในช่วง “เทศกาลสงกรานต์” หรือ “ปีใหม่ไทย” หลายคนจะเดินทางกลับภูมิลำเนา เดินทางท่องเที่ยวต่างจังหวัด หรือทำบุญตามวัดต่าง ๆ เพื่อเสริมสิริมงคลแก่ชีวิตรับวันปีใหม่ พีพีทีวีจึงได้รวบรวมเส้นทางการท่องเที่ยวเชิงศรัทธา ที่ทุกคนจะได้ทั้งท่องเที่ยวและทำบุญไปในตัว ทั้งหมด 9 วัด 5 ภูมิภาค 15 เส้นทางทั่วประเทศ โดยมีข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้

ภาคเหนือ ได้แก่

1. เชียงใหม่

  • วัดหลวงขุนวิน อ.แม่วาง

วัดเล็ก ๆ เก่าแก่ที่มีอายุมากกว่า 700 ปี เมื่อใครได้พบเห็นดั่งต้องมนต์สะกดเหมือนได้ค้นพบความสวยงามแบบอันซีน (Unseen) ที่ซ่อนตัวอยู่ในความวิจิตรตระการตาของสถาปัตยกรรมสไตล์ล้านนาโบราณ ทั้งวิหารไม้สักหลังเล็ก บันไดนาคสีขาวที่มีลวดลายเรียบง่ายแต่งดงาม และพระประธานของวัดที่ถูกสลักจากไม้เข้ากันกับโบสถ์ได้ดี

ความน่าหลงใหลของวัดนี้ คือ อยู่ไกลจากชุมชน ถนนหนทางค่อนข้างลำบาก จึงมักไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามามากนัก แต่ภายในวัดมีอเจดีย์บรรจุพระเกศาธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และมีอุโบสถ 2 หลัง คือ อุโบสถพระยืน (ปางจงกรมแก้ว) และอุโบสถพระนอน (ปางปรินิพพาน) นับเป็นหนึ่งในวัดที่ควรเข้ามากราบสักการะ เพื่อความสิริมงคลแก่ชีวิต

  • วัดพระธาตุดอยคำ

วัดเก่าแก่อายุกว่า 1,400 ปี ที่สร้างมาตั้งแต่ยุคพระนางจามเทวี ภายในประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และหลวงพ่อทันใจ ที่นักท่องเที่ยวหลายคนมักมากราบสักการะบูชา ขึ้นมาขอพรทั้งเรื่องของโชคลาภ หน้าที่การงาน และเรื่องธุรกิจ และเมื่อสำเร็จผลได้ตามที่ปรารถนาก็จะนำพวงมาลัยดอกมะลินำมาไหว้ท่านตามจำนวนที่เคยบอกไว้

ปาฏิหารย์เกิดขึ้นทันใจบ่อยครั้ง จนเลื่องลือไปไกล ชื่อของหลวงพ่อทันใจกลายมาเป็นหนึ่งในสุดยอดสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ทุกคนตั้งใจมากราบไหว้ขอพรเมื่อมาเที่ยวเชียงใหม่

2. ลำพูน

  • วัดพระธาตุหริภุญชัย วรมหาวิหาร อ.เมือง

สิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง ศูนย์รวมจิตใจชาวลำพูนมานานนับปี ถือเป็นหนึ่งในเส้นทางแสวงบุญสำคัญแห่งล้านนาตั้งแต่สมัยหริภุญชัย ภายในวัดมีสถาปัตยกรรมและศิลปที่งดงามน่าชม ทั้งวิหารหลวงที่งามอ่อนช้อย หอไตร รวมถึงซุ้มประตูที่งามวิจิตรและสิงห์คู่ที่ยืนโดดเด่น

ซึ่งประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้า และยังเป็นพระธาตุประจำตัวของคนที่เกิดปีระกาที่ต้องหาโอกาสมาสักการะเสริมดวงชะตากันสักครั้ง

3. ลำปาง

  • วัดพระธาตุดอยพระฌาน อ.แม่ทะ

องค์พระใหญ่สีเขียวองค์ฟ้า ที่มีลักษณะคล้ายกับองค์พระไดบุตสึแห่งวัดโคโตคุ เมืองคามาคุระ ปนะเทศญี่ปุ่น ซึ่งประดิษฐานบนเนินเขาของวัดพระธาตุดอยพระฌาน กลายเป็นแลนด์มาร์กใหม่ที่นักท่องเที่ยวให้ความสนใจมากมายและต้องเข้ามาถ่ายรูปเช็คอินให้ได้เมื่อมาเที่ยวที่จังหวัดลำปาง

ภายในวัดยังมีสถาปัตยกรรมในสกุลช่างลำปางที่น่าชมหลายอย่าง เช่น พระพุทธรูปประธานในวิหาร รวมถึงพระธาตุเจดีย์และซุ้มประตูโขง และยังเป็นจุดชมวิวทิวทัศน์มุมสูงแบบ 360 องศา มองเห็นได้ไกล ถึงสามอำเภอ อ.แม่ทะ อ.เกาะคา และ อ.เมือง ยิ่งในช่วงเช้าของฤดูหนาวหรือฤดูฝนอาจได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นสวยท่ามกลางสายหมอกอีก

  • วัดศรีชุม

วัดที่สามารถพบกับเทพคิวปิดยืนพนมมือ ยืนบนพระจันทร์เสี้ยวที่ประดับบนบานประตู ดูน่ารักน่าเอ็นดู วัดแห่งนี้ถือเป็นวัดศิลปะเมียนมาที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยสร้างขึ้นจากช่างมัณฑะเลย์นับตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 5

ภาคตะวันออก ได้แก่

4. ชลบุรี

  • สำนักสงฆ์เขาพระคู อ.ศรีราชา

สถานที่ปฏิบัติธรรมที่เงียบสงบ ร่มรื่นบนยอดเขาที่ซ่อนตัวอยู่ในตัวเมืองศรีราชา นักท่องเที่ยวต่างพากันมากราบนมัสการขอพรพระพุทธรูปปางลีลานาคะบารมี นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวแบบพาโนรามาที่สวยงามของอำเภอศรีราชาอีกด้วย

ที่สำคัญหากอยากเห็นเมืองศรีราชาในมุมมองที่แปลกตา ให้มองผ่านลูกแก้วมณีนาคราชคริสตัล ที่อยู่ตรงกลางระหว่างองค์พญานาคคู่ที่หัวชนกัน ก็จะได้เห็นอำเภอศรีราชาแบบกลับหัว ตรงนี้เป็นมุมที่ถูกใจของคนที่ชื่นชอบในการถ่ายรูปมาก

5. ฉะเชิงเทรา

  • สมเด็จองค์ปฐมเรืองแสง วัดป่าพรหมยาน อ.แปลงยาว

แม้ในยามค่ำคืน สาธุชนผู้เปี่ยมศรัทธาในศาสนา สามารถเดินทางมาที่วัดป่าพรหมยานได้ เพื่อรอชมพระเรืองแสงเป็นสีมรกตของสมเด็จองค์ปฐม ที่จะค่อย ๆ เรืองรองขึ้นในความมืดราวกับอัศจรรย์กลางลานธรรมพุทธจักรวาล โดยภายในพระเกศของพระองค์นั้นเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุเพื่อให้ศาสนิกชนได้กราบไหว้เป็นสิริมงคล

เชื่อกันว่าใครที่ได้มาสักการะสมเด็จองค์ปฐม อันเป็นสัญลักษณ์ของการบูชาธรรมะของพระพุทธเจ้าแล้ว จะก่อเกิดปัญญาที่ส่องสว่างทั้งกลางวันและกลางคืน สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่าง ๆ ไปสู่ความรุ่งโรจน์และแสงสว่างแห่งชีวิต

  • พระพิฆเนศปางนอนเสวยสุข วัดสมานรัตนาราม อ.เมือง

องค์พระพิฆเนศในที่แห่งนั้น ถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีความยาวกว่า 24 เมตร ด้วยองค์มีสีชมพูสดใส ดูเปี่ยมพลังแห่งความสุขและบารมี เชื่อกันว่าใครที่ได้มาขอพรเทพเจ้าแห่งความสำเร็จนี้ จะทรงประทานพรให้พบกับความสุขความสำเร็จ มีความสมบูรณ์พูลสุข มั่งคั่ง อิ่มหนำสำราญ มีเงินทองใช้ไม่ขาดมือ ปราศจากทุกข์ภัย ไร้ความเศร้าหมองใด ๆ

6. นครนายก

  • วัดมณีวงศ์ อ.เมือง

วัดเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ภายในวัดจำลองให้เป็นเมืองบาดาลใหญ่ที่สดในประเทศ มีพระพุทธรูปพระรัตนมณีมหาบาดาลที่สร้างขึ้นอย่างวิจิตรงดงาม ภายในจะมีพญานาคทั้ง 4 ตระกูล และบริวารรวมแล้วกว่า 1,000 คน

จุดที่จะต้องขอพร คือ จุดแรกพญานาค 2 องค์ หน้าประตูวัด ฝั่งขวาของวัดหรือซ้ายมือของเรา ขอพรเรื่องสุขภาพและโรคภัยไข้เจ็บ ส่วนด้านซ้ายมือของวัดหรือขวามือของเรา ขอด้านการงาน การเงิน และหนี้สิน จุดที่สองไหว้หลวงพ่อพันล้าน ขอด้านการเงิน ธุรกิจ จุดที่สามพระพุทธรูปป่าเลไลยก์ ขอให้มีชัยชนะเหนือศัตรู และจุดที่ห้ามพลาด คือ กราบนมัสการพระประธานในโบสถ์ขอพรด้านการเงิน ทรัพย์สมบัติ โชคลาภ และปัญหาต่างๆ

แนะ 8 เส้นทางเลี่ยงรถติด ช่วงสงกรานต์ 2565 คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

เช็กมาตรการ!“สงกรานต์2565” ศบค.ไฟเขียวจัดงานได้ พื้นที่ไม่มีการควบคุม ‘ห้ามเล่นน้ำ-ประแป้ง-ปาร์ตี้โฟ…

ภาคกลาง ได้แก่

7. ปทุมธานี

  • วัดเจดีย์หอย

เจดีย์หอย นับเป็นเจดีย์ที่สร้างมาจากเปลือกหอยที่มีอยู่หนึ่งเดียวในประเทศ ภายในอุโบสถจะมีพระประธานองค์ใหญ่สีทอง คือ หลวงพ่อชนะมารที่ชาวบ้านให้ความนับถือ

มีความเชื่อว่าถ้าครได้มากราบสักการะจะชนะหมู่มารทั้งปวง บรรดาข้าราชการ ตำรวจ ทหาร มักจะมาขอพรให้สำเร็จอย่างที่ตั้งใจ และยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางเกษตรอย่างสวนสมุนไพรว่านยา พิพิธภัณฑ์เรือยาว บึงน้ำปลาสวาย และบ่อเต่า นอกจากจะได้ทำบุญแล้ว ยังได้ทำทานด้วยการให้อาหารปลาและเต่าอีกด้วย

8. สุพรรณบุรี

  • วัดป่าเลไลยก์อ.เมือง

วัดป่าเลไลยก์ ถูกสร้างขึ้นก่อนสถาปนากรุงศรีอยุธยา ภายในประดิษฐานหลวงพ่อโต ถือเป็นปางประจำของผู้ที่เกิดวันพุธกลางคืน ด้านหน้าพระวิหารมีองค์จำลองให้ประชาชนได้กราบไหว้ จุดเทียน ปิดทอง นอกจากนั้นยังมีพระพุทธรูปหลวงพ่อดำให้กราบสักการะด้วย เนื่องจากวัดนี้มีความเกี่ยวข้องกับวรรณคีเลื่องชื่อของไทย คือ เสภาขุนช้างขุนแผน นิราศเมืองสุพรรณของสุนทรภู่

9. พระนครศรีอยุธยา

  • วัดพระงามคลองสระบัว อ.พระนครศรีอยุธยา

ซุ้มประตูอิฐที่ถูกพยุงไว้ด้วยรากเกาะเกี่ยวต้นโพธิ์มานานกว่า 100 ปีของวัดพระงาม วัดร้างเก่าแก่มาตั้งแต่สมัยอยุธยา จนเปรียบเสมือนประตูแห่งกาลเวลา นับเป็นสถานที่อันซีน (Unseen) ที่พลาดไม่ได้ และได้ถูกประกาศให้เป็น 1 ใน 88 ต้น รุกข มรดกแผ่นดิน จากกระทรวงวัฒนธรรม เพราะเป็นต้นไม้สำคัญที่ได้อยู่ร่วมกับโบราณสถานสำคัญของพระนครศรีอยุธยามาอย่างยาวนาน

ภาคใต้ ได้แก่

10. นครศรีธรรมราช

  • วัดเจดีย์ อ.สิชล

ถ้าเอ่ยเรื่องความเชื่อด้านการขอพรโชคลาภและการค้าขาย หลายคนคงนึกถึง “ไอ้ไข่” เด็กวัดเจดีย์ เนื่องจากมีเรื่องราวเล่าขานกันมากมายตั้งแต่ เมื่อครั้งที่คนท้องถิ่นชื่อผู้ใหญ่เที่ยงนิมิตถึงเด็กชายมาขอให้แกะรูปของตน จึงเป็นที่มาของการแกะสลักไม้ตะเคียน สลักกลายเป็นรูปเคารพไอ้ไข่ที่โด่งดังไปทั่วประเทศจวบจนทุกวันนี้ ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ของไอ้ไข่ทำให้ใครต่อใครรับทรัพย์รับโชคลาภกันมากมาย

  • วัดไพศาลสถิต อ.เมือง

อีกหนึ่งสถานที่อันซีน (Unseen) ที่ต้องแวะมาสักการะให้ได้ คือ วัดไพศาลสถิต หรือวัดปากพยิง ภายในมีโบสถ์เก่าแก่อายุกว่า 100 ปี ซึ่งถูกโอบอุ้มไว้ว้ด้วยรากต้นไทร รากต้นโพธิ์ และต้นไม้น้อยใหญ่ กลายเป็นลวดลายจากธรรมชาติที่สวยงาม ภายในพระอุโบสถเก่าได้รับการบูรณะพื้นใหม่สะอาด สร้างซุ้มหลังคาและตู้กระจก ประดิษฐานพระประธาน

ปางมารวิชัยสีทองอร่าม พระโอษฐ์สีแดงเข้ม คือ หลวงพ่อปากแดง รวมถึงพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ข้างซ้ายขวา ผู้คนนิยมเดินทางมาขอพรหลวงพ่อปากแดงในเรื่องของความรักและความร่มเย็นเป็นสุข

11. ตรัง

  • ศาลเจ้าฮกเกี้ยนกงก้วน อ.กันตัง

ศาลเจ้าฮกเกี้ยนกงก้วน มีอายุเก่าแก่กว่า 150 ปี เต็มไปด้วยสถาปัตยกรรมคลาสิกที่ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างอาคารไม้สีเหลืองนวล ตัดกับโคมไฟสีแดงที่ประดับตกแต่งเข้ากับบรรยากาศอาคารศาลเจ้าได้อย่างงดงาม

ผ่านมากว่าศตวรรษ ความศรัทธาที่มีต่อสถานที่แห่งนี้ยังคงเหนียวแน่น ส่วนใหญ่นิยมเดินทางมาสักการะไหว้ขอพรจากเจ้าแม่ทับทิม เพื่อเป็นสิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว รวมถึงความเชื่อว่า หากได้ขอพรเจ้าแม่ทับทิมในที่ศาลเจ้าแห่งนี้แล้วจะช่วยให้เดินทางปลอดภัยและการค้าขายจะเจริญรุ่งเรือง

12. ชุมพร

  • ศาลกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ หาดทรายศรี อ.เมือง

สถานที่ศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองและศูนย์รวมความศรัทธาของชาวชุมพร และยังเป็นศาลกรมหลวงชุมพรฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศอีกด้วย บริเวณศาลประกอบไปด้วย ศาลหลังเก่าใกล้กับเรือรบหลวงชุมพรที่ตั้งของพระตำหนักที่พระองค์สิ้นพระชนม์

นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ทรงได้รับสมัญญานามว่า องค์บิดาของทหารเรือไทย ชาวบ้านนิยมเรียกว่าเสด็จเตี่ย ทรงมีพระปรีชาสามารถด้านการเรือสมัยใหม่ และมีประวัติว่าสนพระทัยเรื่องไสยศาสตร์วิชาอาคม ผู้คนที่มีความศรัทธาจะเดินทางมาสักการะขอพร ในเรื่องของหน้าที่การงาน โดยเฉพาะการสอบราชการ ตลอดจนถึงเรื่องการเดินทางให้แคล้วคลาดปลอดภัย เครื่องสักการะที่นิยม ได้แก่ ดอกกุหลาบแดง พวงมาลัยดอกมะลิ หมากพลู รวมทั้งการจุดประทัดถวาย

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้แก่

13. สกลนคร

  • พญาเต่างอย อ.เต่างอย

พญาเต่างอย รูปปั้นเต่าชื่อดังที่สร้างจากตำนานความเชื่อของชาวสกลนคร เล่ากันสืบมาว่า แต่ก่อนชาวบ้านถูกกวาดต้อนและหนีภัยสงครามมาถึงลุ่มลำน้ำพุง เห็นมีเต่าเกาะโขดหินอยู่ริมฝั่ง ก็พิจารณากันว่าเป็นที่อุดมสมบูรณ์และเหมาะสมในการตั้งถิ่นฐานอยู่อาศัย เลยตั้งชื่อหมู่บ้านว่า บ้านเต่างอย จนต่อมาเติบโตเป็นชุมชนที่ใหญ่ขึ้น จนได้เป็นเมืองและอำเภอที่อุคมสมบูรณ์และอยู่กันอย่างสงบสุข

ส่วนรูปปั้นพญาเต่างอยสร้างเสร็จในราวปี พ.ศ. 2555 ที่สวนสาธารณะหลังที่ทำกาอำเภอเต่างอย โดยฝีมือช่างจากศูนย์ศิลปาชีพบ้านกุดนาขาม และได้รับความสนใจจากผู้ศรัทธามาบูชาพญาเต่างอยกันอย่างล้มหลาม เพราะเชื่อว่าจะช่วยให้อายุยืนยาวและให้โชคลาภ รูปปั้นพญาเต่างอยจึงกลายเป็นขวัญใจของผู้รักการแสวงโชคที่เดินทางมากราบไหว้จากทุกทิศทั่วไทย

14. เลย

  • ภูพระ อ.ด่านซ้าย

ภาพองค์พระสีขาวหลายสิบองค์นั่งอยู่ท่ามกลางต้นไม้สีเขียวกลายเป็นภาพสวยงามที่มีเสน่ห์ดึงดูดให้หลายคนที่ได้เห็นอยากขึ้นมาสัมผัสสักครั้ง จนกลายเป็นจุดเซ็กอินแห่งใหม่ของอำเภอด่านซ้าย เกิดจากความร่วมมือร่วมใจของชุมชนบ้านหมากแจ้ง ที่ช่วยกันขนย้ายองค์พระหลายสิบองค์ที่ชำรุดทรุดโทรมและถูกทิ้งกระจัดกระจายไว้ตามที่ต่าง ๆ นำมาซ่อมแซม และบูรณะปฏิสังขรณ์ตามหลักพุทธศิลป์ จากนั้นนำมารวมไว้ที่นี่ เพื่อให้คนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวสามารถขึ้นมาไหว้พระ ซึมซับบรรยากาศ ชมวิวถ่ายภาพได้ตลอดทั้งวัน โดยเฉพาะตอนเช้ามืดและพลบค่ำที่จะได้เห็นแสงสวยๆ ของท้องฟ้าอีกด้วย

15. บึงกาฬ

  • ถ้ำนาคา อ.บึงโขงหลง

มหัศจรรย์ธรรมชาติของหินก้อนใหญ่และผนังถ้ำที่มีลักษณะคล้ายพญานาคหรืองูขนาดใหญ่นอนขดตัว กลายเป็นที่กล่าวขวัญถึงอย่างมาก ด้วยความเชื่อและศรัทธาเรื่องพญานาคที่อยู่ในวิถีชีวิตของคนไทย ถ้ำนาคานี้ป็นส่วนหนึ่งของอุทยานแห่งชาติภูลังกา จะเข้าถึงได้โดยการเดินเท้าขึ้นไปเท่านั้น

แม้ว่าระยะทางการเดินอาจจะถือว่าไกลสำหรับบางคน แต่ทิวทัศน์ที่สวยงามระหว่างทางจนถึงหินพญานาคที่สวยงามแปลกตารออยู่ปลายทาง ทำให้ผู้ไปเยือนประทับใจได้ไม่น้อย และด้วยความนิยมที่เพิ่มมากขึ้นนักท่องเที่ยวต้องจองคิวล่วงหน้าก่อนไป เพราะถ้ำนาคาเปิดรับนักท่องเที่ยวได้แค่วันละเพียง 500 คนเท่านั้น โดยใช้เดินขึ้นลงประมาณ 3-4 ชั่วโมง ดังนั้นจึงต้องเตรียมน้ำดื่มและอาหารขึ้นไปให้เพียงพอ